เตรียมรถให้พร้อม ก่อนหยุดยาวสงกรานต์
เตรียมรถให้พร้อม ก่อนหยุดยาวสงกรานต์
การเตรียมรถให้พร้อมก่อนหยุดยาวสงกรานต์เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้การเดินทางของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยในช่วงเวลาที่คาดว่าจะเป็นเวลาที่แออัดทางจราจรมาก การเตรียมรถให้พร้อมไม่เพียงแต่เป็นการตรวจสอบความพร้อมของรถเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ แต่ยังเป็นการดูแลและรักษาความปลอดภัยของคุณและครอบครัวที่เป็นสิ่งสำคัญ
เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบระบบหลาย ๆ ส่วนของรถ เช่น ระบบเบรก ยางรถ เครื่องยนต์ และเช็คระดับน้ำมัน เพื่อให้แน่ใจว่าทุกส่วนพร้อมใช้งานอย่างสมบูรณ์ ควรตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง เช็คสภาพยางรถ รวมถึงความสะอาดและความใส่ใจในภายในและภายนอกของรถเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดได้
นอกจากนี้ การเตรียมรถให้พร้อมยังควรรวมการเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ที่อาจจะต้องใช้ในการเดินทางในช่วงเวลานี้ เช่น อะไหล่สำรอง เครื่องมือช่วยเร่งด่วน เครื่องทำน้ำแข็ง และอุปกรณ์กู้ชีวิต เพื่อให้คุณมั่นใจว่าคุณมีเครื่องมือที่จำเป็นตลอดเส้นทาง บทความนี้จะช่วยให้คุณสามารถเช็ครถ เตรียมรถให้พร้อมก่อนเดินทางช่วงสงกรานต์ได้อย่างมั่นใจ และปลอดภัย
เบื้องต้น ควรเช็คอะไรบ้าง?
- น้ำมันเครื่อง: ตรวจสอบระดับและคุณภาพของน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่กำหนด
- น้ำกลั่น: เติมน้ำกลั่นให้แบตเตอรี่อยู่ในระดับที่ควรจะเป็น
- ยางรถ: ตรวจสอบลมยาง ดอกยาง และสภาพของยาง เปลี่ยนยางเมื่อจำเป็น
- ไฟส่องสว่าง: ตรวจสอบว่าไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว ไฟเบรก ไฟฉุกเฉิน ทำงานได้ปกติ
- เบรก: ตรวจสอบระดับน้ำมันเบรก และประสิทธิภาพของเบรก
- ใบปัดน้ำฝน: ตรวจสอบสภาพของใบปัดน้ำฝน เปลี่ยนใบปัดน้ำฝนเมื่อจำเป็น
- ระบบหล่อเย็น: ตรวจสอบระดับน้ำในหม้อน้ำ และตรวจสอบว่าระบบหล่อเย็นทำงานได้ปกติ
- ท่อไอเสีย: ตรวจสอบว่าท่อไอเสียไม่มีรอยรั่ว
วิธีเช็คแบบละเอียด
1) การเช็คน้ำมันเครื่อง
- จอดรถบนพื้นราบ ดับเครื่องยนต์ รอ 5-10 นาที ให้น้ำมันเครื่องไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำมัน
- เปิดฝากระโปรงหน้า
- หาตำแหน่งก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง สังเกตแท่งโลหะที่มีด้ามจับสีเหลืองหรือสีส้ม
- ดึงก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง ดึงก้านวัดออกมา เช็ดคราบน้ำมันออกด้วยผ้าสะอาด
- เช็คระดับน้ำมันเครื่อง สังเกตรอยหยักบนก้านวัด ระดับน้ำมันเครื่องควรอยู่ระหว่างขีด MIN และ MAX
- เติมน้ำมันเครื่อง หากน้ำมันเครื่องต่ำกว่าขีด MIN ให้เติมน้ำมันเครื่องชนิดเดียวกันกับที่ใช้อยู่ เติมจนระดับน้ำมันอยู่ระหว่างขีด MIN และ MAX
- ใส่ก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องกลับ ใส่ก้านวัดกลับเข้าที่ กดให้แน่น
2) การเช็คน้ำกลั่น
- จอดรถบนพื้นราบ ดับเครื่องยนต์ รอ 5-10 นาที ให้น้ำกลั่นนิ่ง
- เปิดฝากระโปรงหน้า
- เปิดฝาแบตเตอรี่เพื่อเติมน้ำกลั่น โดยฝาเติมน้ำกลั่นมักมีสีแดง เขียว หรือฟ้า อาจมีสัญลักษณ์บอกระดับ
- เช็คระดับน้ำกลั่น โดยสังเกตระดับน้ำกลั่น ควรอยู่ระหว่างขีด MIN และ MAX
- หากน้ำกลั่นต่ำกว่าขีด MIN ให้เติมน้ำกลั่น Distilled Water เท่านั้น เติมจนระดับน้ำอยู่ระหว่างขีด MIN และ MAX
- ปิดฝาเติมน้ำกลั่นให้แน่น
3) การเช็คยางรถยนต์
- ตรวจสอบดอกยาง
ใช้เหรียญ 1 บาท สอดเข้าไปในร่องดอกยาง หากเห็นสันนูนของเหรียญ แสดงว่าดอกยางสึกหรอ ควรเปลี่ยนยางใหม่ ตรวจสอบดอกยางทุกจุด ว่าสึกหรอไม่เท่ากัน หรือมีรอยฉีกขาด บวม หรือผิดปกติ - ตรวจสอบลมยาง
ใช้เครื่องวัดลมยาง ตรวจสอบว่าลมยางอยู่ตามค่าที่แนะนำในคู่มือรถ โดยตรวจสอบลมยางทุกเส้น รวมถึงยางอะไหล่ - ตรวจสอบสภาพยาง
สังเกตว่ายางมีรอยแตกลายงา บวม โป่ง หรือผิดปกติ และตรวจสอบว่ายางมีรอยรั่ว หรือรอยฉีกขาดหรือไม่ - ตรวจสอบอายุยาง
ยางรถยนต์โดยทั่วไปมีอายุการใช้งานประมาณ 5 ปี เมื่อครบอายุการใช้งาน หรือ หากมีสภาพยางที่เสื่อมก่อน 5 ปี ควรเปลี่ยนทันที
4) การเช็คไฟรถยนต์
- เปิดไฟหน้า ตรวจสอบว่าไฟหน้าสว่างชัด ไม่มืด หรือแสงไม่สม่ำเสมอ
- ตรวจสอบว่าไฟสูง ไฟต่ำ ทำงานปกติ
- ทดสอบไฟเลี้ยว ว่าไฟเลี้ยวทำงานปกติ ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง
- เปิดไฟท้าย ตรวจสอบว่าไฟท้ายสว่างชัด ไม่มืด หรือแสงไม่สม่ำเสมอ
- ตรวจสอบว่าไฟเบรก ไฟถอยหลัง ทำงานปกติ
- ตรวจสอบว่าไฟส่องสว่างภายในรถ เช่น ไฟเพดาน ไฟอ่านหนังสือ ทำงานปกติ
- ทดสอบไฟฉุกเฉิน ว่าไฟฉุกเฉินทำงานปกติ
5) การเช็คเบรกรถ
- ตรวจสอบระดับน้ำมันเบรก
- เปิดฝากระโปรงหน้า หาถังเก็บน้ำมันเบรก มักมีฝาสีขาว เขียนว่า BRAKE FLUID
- ตรวจสอบระดับน้ำมันเบรก ควรอยู่ระหว่างขีด MIN และ MAX
- เหยียบเบรก
- เหยียบเบรก สังเกตว่าเบรกทำงานปกติ ไม่รู้สึกเบรกยวบ หรือเบรกแข็ง
- เหยียบเบรกแล้ว ฟังเสียงว่ามีเสียงดังผิดปกติหรือไม่
- ทดสอบเบรก
- หาพื้นที่โล่ง ขับรถไปด้วยความเร็ว ประมาณ 40-50 กม./ชม. เหยียบเบรกแบบกะทันหัน
- สังเกตว่ารถหยุดนิ่ง ไม่เสียการควบคุม เบรกไม่ลื่นไถล
- ตรวจสอบผ้าเบรก
- ถอดล้อรถ ตรวจสอบผ้าเบรก ว่ายังมีเนื้อผ้าเบรกเหลือ หรือสึกหรอจนถึงเหล็ก
- สังเกตว่าผ้าเบรกสึกหรอไม่เท่ากัน หรือมีรอยผิดปกติ
6) การเช็คใบปัดน้ำฝนรถยนต์
- สังเกตสภาพยางใบปัด
- ดูว่ายางใบปัดมีรอยแตกลายงา แข็ง หรือเสื่อมสภาพ
- ลองสัมผัสยางใบปัด ว่าเรียบ หรือสะดุด
- สังเกตว่ายางใบปัดบิดงอ หรือผิดรูป
- ทดสอบการทำงานของใบปัด
- เปิดใบปัดน้ำฝน ตรวจสอบว่าใบปัดปัดน้ำฝนได้สะอาด ไม่กระโดด หรือมีเสียงดัง
- ลองใช้ใบปัดน้ำฝนในทุกความเร็ว ตรวจสอบว่าทำงานปกติ
- ทำความสะอาดใบปัดน้ำฝน
- ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดทำความสะอาดยางใบปัด
- ผสมน้ำยาล้างจานกับน้ำ ฉีดลงบนกระจกหน้ารถ แล้วใช้ใบปัดปัดน้ำฝน เพื่อทำความสะอาดยางใบปัด
7) การเช็คระบบหล่อเย็นรถ
- ตรวจสอบระดับน้ำยาหล่อเย็น
- เปิดฝากระโปรงหน้า หาหม้อพักน้ำ มักมีฝาสีฟ้า เขียนว่า COOLANT
- ตรวจสอบระดับน้ำยาหล่อเย็น ควรอยู่ระหว่างขีด MIN และ MAX
- สังเกตว่าน้ำยาหล่อเย็นมีสีใส ไม่มีตะกอน หรือคราบน้ำมัน
- ตรวจสอบท่อยาง
- ตรวจสอบว่าท่อยางมีรอยรั่ว หรือรอยแตกลายงา
- ลองบีบท่อยาง ว่ามีความยืดหยุ่น ไม่แข็ง
- ตรวจสอบหม้อน้ำ
- ตรวจสอบว่าหม้อน้ำมีรอยรั่ว หรือรอยแตกลายงา
- สังเกตว่ามีครีบระบายความร้อนอุดตัน หรือไม่
- ตรวจสอบพัดลมหม้อน้ำ
- ตรวจสอบว่าพัดลมหม้อน้ำทำงานปกติ เมื่อเครื่องยนต์ร้อน
- สังเกตว่าใบพัดลมหม้อน้ำมีรอยแตก หรือเสียหาย
นอกจากจากเตรียมรถให้พร้อมแล้ว อย่าลืมตรวจสอบเอกสารที่สำคัญเช่น ใบขับขี่ กรมธรรม์ประกันภัย และเอกสารประจำรถ เพื่อให้คุณมีเอกสารทุกอย่างที่จำเป็นในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังควรตรวจสอบเส้นทางและสภาพจราจรล่าสุดเพื่อทำให้การเดินทางของคุณเป็นไปอย่างปลอดภัยและสะดวกสบายในช่วงเวลาที่คาดว่าจะเป็นเวลาที่แออัดทางจราจรมาก ด้วยการเตรียมรถให้พร้อมอย่างละเอียดและรอบคอบ คุณจะสามารถเพลิดเพลินกับการเดินทางของคุณในช่วงเวลาสุดสัปดาห์ของสงกรานต์ได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย สวัสดีปีใหม่ไทย 2567 ครับผม